ข้อมูลการออกอากาศ ของ ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก (ฤดูกาลที่ 2)

ตอนที่ 1 : รอบแรก (First Round)

ออกอากาศ 9 สิงหาคม 2563
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: ในรอบนี้มีวัตถุดิบหลักคือบลูฟินทูน่า และวัตถุดิบปริศนาคือจำปาดะ โดยสองจานที่แย่ที่สุดในรอบนี้คือเชฟ ENOCH และเชฟหนามเตย โดยเชฟทั้งสองท่านทำเมนูออกมาอย่างไม่มีความคิดสร้างสรรค์ที่เพียงพอและปลาทูน่ามีกลิ่นคาว ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟบอย ซึ่งผู้ชนะสามารถเลือกเชฟ 2 คนให้ไปแข่งในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา โดยเชฟบอยได้เลือกเชฟแก้วและเชฟโมนให้ไปแข่งขันต่อ
  • ผู้ชนะ: เชฟบอย
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารสองจานที่แย่ที่สุด: เชฟ ENOCH และเชฟหนามเตย
  • ผู้ที่ถูกเลือกให้ไปแข่งขันต่อ: เชฟแก้วและเชฟโมน
  • รอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา: ในรอบนี้เชฟทั้ง 4 คนจะต้องประมูลวัตถุดิบโดยใช้เวลาเป็นตัวประมูล โดยเชฟที่ประมูลวัตถุดิบโดยใช้เวลาน้อยที่สุดจะได้วัตถุดิบชิ้นนั้นไป ส่วนเชฟที่ไม่สามารถชนะการประมูลได้จะต้องใช้วัตถุดิบอย่างสุดท้ายกับเวลา 30 นาที โดยเชฟแก้วได้วัตถุดิบเป็นกุ้งแม่น้ำ, เชฟโมนได้วัตถุดิบเป็นหอยเสียบดองน้ำปลา, เชฟ ENOCH ได้วัตถุดิบเป็นปูอลาสก้าคิงแครบ ส่วนเชฟหนามเตยได้วัตถุดิบเป็นมะละกอ ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟแก้ว และผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดและจะต้องออกจากการแข่งขั่นคือ เชฟหนามเตย
  • ผู้ชนะ: เชฟแก้ว
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: เชฟหนามเตย

ตอนที่ 2 : การยกระดับวัตถุดิบอาหารป่าพื้นบ้านของไทย สู่ความเป็นอินเตอร์

ออกอากาศ 16 สิงหาคม 2563
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: การแข่งขันพึ่งเริ่มได้เพียงอาทิตย์เดียวก็มีคนยอมแพ้ถอดใจขอถอนตัวนั่นก็คือ เชฟแพน เนื่องจากไม่ยอมรับการตัดสินและไม่คิดจะสู้หรือกลัวมาแพ้ในสนาม จึงได้ถอนตัวออกจากการแข่งขันไป ในรอบนี้มีวัตถุดิบหลักคือกบ บ้องตัน ปลาคลัง ขาหมูป่า นกกระทา หนูนา และงูเห่า โดยผู้ที่ชนะในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลาในสัปดาห์ที่แล้วนั่นก็คือ เชฟแก้ว จะได้รับสิทธิพิเศษเลือกวัตถุดิบให้กับผู้เข้าแข่งขันทุกคน โดยเชฟแก้วเลือกปลาคลังให้เชฟบอส เลือกกบให้เชฟบูมกับตัวเอง (เชฟแก้ว) เลือกบ้องตันให้เชฟอาร์กับเชฟพงษ์ เลือกขาหมูป่าให้เชฟเก่งกับเชฟโมน เลือกนกกระทาให้เชฟจารึกกับเชฟ ENOCH เลือกหนูนาให้เชฟจีกับเชฟธีน่า เลือกงูเห่าให้เชฟเติ้ลกับเชฟบอย โดยสองจานที่แย่ที่สุดในรอบนี้คือเชฟเก่ง และเชฟจี โดยเชฟทั้งคู่ทำวัตถุดิบหลักไม่สุก และผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟทีน่า ซึ่งผู้ชนะสามารถเลือกเชฟ 2 คนให้ไปแข่งในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา โดยเชฟธีน่าได้เลือกเชฟโมนและเชฟเติ้ลให้ไปแข่งขันต่อ
  • ผู้ชนะ: เชฟธีน่า
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารสองจานที่แย่ที่สุด: เชฟเก่ง† และเชฟจี†
  • ผู้ที่ถูกเลือกให้ไปแข่งขันต่อ: เชฟโมนและเชฟเติ้ล
  • ผู้ที่ถูกถอนตัว: เชฟแพน
  • รอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา: ในรอบนี้เชฟทั้ง 4 คนจะต้องประมูลอุปกรณ์ให้ความร้อนเพื่อใช้ในการปรุงอาหารโดยใช้เวลาเป็นตัวประมูล โดยเชฟที่ประมูลอุปกรณ์โดยใช้เวลาน้อยที่สุดจะได้อุปกรณ์ชิ้นนั้นไป ส่วนเชฟที่ไม่สามารถชนะการประมูลได้จะต้องใช้อุปกรณ์อย่างสุดท้ายกับเวลา 30 นาที โดยเชฟจีได้อุปกรณ์เป็นเตาอั้งโล่ พร้อมถ่าน ไม้ขัดไฟ และขี้ไต้, เชฟเก่งได้อุปกรณ์เป็นเตาปิคนิค, เชฟโมนได้อุปกรณ์เป็นเทียนพรรษา ส่วนเชฟเติ้ลได้อุปกรณ์เป็นโบรทอสช์ (ที่พ่นไฟ) ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟจี และผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดก็คือ เชฟโมน และเชฟเติ้ล โดยเชฟเติ้ลพลาดในเรื่องของการใช้อุปกรณ์หลักนั่นก็คือโบรทอสช์ ในการรังสรรค์อาหาร ส่วนเชฟโมน พลาดในเรื่องความคิดสร้างสรรค์และหอยเชลส์ที่ยังดิบอยู่ และผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดและจะต้องออกจากการแข่งขั่นคือ เชฟโมน แต่เนื่องจาก เชฟแพน ได้ถอนตัวออกจากการแข่งขันไป ทางกรรมการแห็นถึงความเป็นนักสู้ของเชฟโมน จึงทำให้เชฟโมนไม่ต้องออกจากการแข่งขันในสัปดาห์นี้
  • ผู้ชนะ: เชฟจี
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารจานที่แย่ที่สุด: เชฟโมนและเชฟเติ้ล
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: ไม่มีใครถูกคัดออก

หมายเหตุ † หมายถึง ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคณะกรรมการทิ้งอาหารโดยไม่มีการชิมในการแข่งขันนั้น

ตอนที่ 3 : การใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดจินตนาการ และการรังสรรค์วัตถุดิบที่อยู่ภายในกล่อง ให้กลายเป็นเมนูของหวาน

ออกอากาศ 23 สิงหาคม 2563
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: ในรอบนี้มีวัตถุดิบหลักคือขนมปังปี๊บ ในธีม ขนมปังปี๊บ In WonderLand ดินแดนมหัศจรรย์ และวัตถุดิบปริศนาคือซอสหอยนางรม โดยผู้ที่ชนะในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลาในสัปดาห์ที่แล้วนั่นก็คือ เชฟจี จะได้รับสิทธิพิเศษในการเลือกใครก็ได้ 4 คน ใช้ซอสหอยนางรมร่วมกับวัตถุดิบหลักในจานอาหารของพวกเขา โดยเชฟจีได้เลือกให้เชฟธีน่า เชฟบอย เชฟพงษ์ และเชฟจารึก โดยสองจานที่แย่ที่สุดในรอบนี้คือเชฟบอส และเชฟธีน่า โดยเชฟบอสพลาดในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ และการชูวัตถุดิบหลัก ขณะที่เชฟธีน่าพลาดในเรื่องของรสชาติ ทำให้รสชาติการชูวัตถุดิบหลักเสียไปหมด ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟอาร์ ซึ่งผู้ชนะสามารถเลือกเชฟ 2 คนให้ไปแข่งในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา โดยเชฟอาร์ได้เลือกเชฟบูมและเชฟแก้วให้ไปแข่งขันต่อ
  • ผู้ชนะ: เชฟอาร์
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารสองจานที่แย่ที่สุด: เชฟบอส และเชฟธีน่า
  • ผู้ที่ถูกเลือกให้ไปแข่งขันต่อ: เชฟบูมและเชฟแก้ว
  • รอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา: ในรอบนี้เชฟทั้ง 4 คนจะต้องประมูลวัตถุดิบโดยใช้เวลาเป็นตัวประมูล โดยเชฟที่ประมูลวัตถุดิบโดยใช้เวลาน้อยที่สุดจะได้วัตถุดิบชิ้นนั้นไป ส่วนเชฟที่ไม่สามารถชนะการประมูลได้จะต้องใช้วัตถุดิบอย่างสุดท้ายกับเวลา 30 นาที ในโจทย์ การรังสรรค์วัตถุดิบที่อยู่ภายในกล่อง ให้กลายเป็นเมนูของหวาน โดยเชฟบอสได้วัตถุดิบเป็นไข่แมงดาทะเล, เชฟบูมได้วัตถุดิบเป็นไข่ปลาสลิด, เชฟธีน่าได้วัตถุดิบเป็นลูกตาล ส่วนเชฟแก้วได้วัตถุดิบเป็นสะตอ ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟธีน่า และผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดก็คือ เชฟบอส และเชฟบูม และผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดและจะต้องออกจากการแข่งขั่นคือ เชฟบอส
  • ผู้ชนะ: เชฟธีน่า
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารจานที่แย่ที่สุด: เชฟบอสและเชฟบูม
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: เชฟบอส

ตอนที่ 4 : การแข่งขันแบบทีม การแบ่งหน้าที่

ออกอากาศ 30 สิงหาคม 2563
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: โดยจะให้ผู้เข้าแข่งขันทำอาหารร่วมกันเป็นทีม โดยผู้ที่ชนะในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลาในสัปดาห์ที่แล้วนั่นก็คือ เชฟธีน่า จะได้รับสิทธิพิเศษในการเลือกทีมให้กับผู้เข้าแข่งขันทุกคน
หัวหน้าทีมสมาชิก
เชฟเก่งเชฟพงษ์, เชฟโมน และเชฟ ENOCH
เชฟเติ้ลเชฟบูม, เชฟแก้ว และเชฟบอย
เชฟอาร์เชฟจารึก, เชฟจี และเชฟธีน่า

โดยในรอบนี้มีวัตถุดิบหลักคือปูจักจั่น และวัตถุดิบปริศนาคือหอยโจงโดง และ อ้อย โดยทุกคนต้องทำอาหารจำนวน 4 จาน 3 เมนู เมนูที่ 1 ปูจักจั่น เมนูที่ 2 หอยโจงโดง และเมนูที่ 3 อ้อย เพื่อแยกเสริฟให้กับกรรมการแต่ละท่าน โดย 1 ทีมที่ทำอาหารออกมาได้ผิดพลาดมากที่สุด จะต้องไปแข่งในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา โดยทีมที่ทำอาหารออกมาได้ผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ทีมสีเหลือง

  • ผู้ที่ถูกเลือกให้ไปแข่งขันต่อ: เชฟเติ้ล, เชฟบูม, เชฟแก้ว และเชฟบอย

ตอนที่ 5 : การยกระดับเมนูของทอด และแห้วแล้วท้อ

ออกอากาศ 6 กันยายน 2563
  • รอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา: ในรอบนี้เชฟทั้ง 4 คนจะต้องประมูลวัตถุดิบโดยใช้เวลาเป็นตัวประมูล โดยเชฟที่ประมูลวัตถุดิบโดยใช้เวลาน้อยที่สุดจะได้วัตถุดิบชิ้นนั้นไป ส่วนเชฟที่ไม่สามารถชนะการประมูลได้จะต้องใช้วัตถุดิบอย่างสุดท้ายกับเวลา 30 นาที ในโจทย์ เมนูของทอด โดยเชฟบอยได้วัตถุดิบเป็นทอดมันปลากราย กับน้ำมัน 1 ขวด, เชฟแก้วได้วัตถุดิบเป็นหมูกรอบ กับน้ำมัน 2 ขวด, เชฟบูมได้วัตถุดิบเป็นกุ้งแพ กับน้ำมัน 1/4 ขวด ส่วนเชฟเติ้ลได้วัตถุดิบเป็นข้าวเม่าทอด กับน้ำมันครึ่งขวด ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟบูม และผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดและจะต้องออกจากการแข่งขั่นคือ เชฟเติ้ล
  • ผู้ชนะ: เชฟบูม
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: เชฟเติ้ล
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: ในรอบนี้มีวัตถุดิบหลักคือแห้ว และวัตถุดิบปริศนาคือท้อ โดยผู้ที่ชนะในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลาในสัปดาห์ที่แล้วนั่นก็คือ เชฟบูม จะได้รับสิทธิพิเศษในการเลือกใครก็ได้ 4 คน ใช้ท้อร่วมกับวัตถุดิบหลักในจานอาหารของพวกเขา โดยเชฟบูมได้เลือกให้เชฟอาร์ เชฟโมน เชฟพงษ์ และเชฟจารึก โดยสองจานที่ดีที่สุดในรอบนี้คือเชฟอาร์ และเชฟเก่ง โดยผู้ชนะในรอบนี้คือ เชฟอาร์ ส่วนสามจานที่แย่ที่สุดในรอบนี้คือเชฟธีน่า, เชฟ ENOCH และเชฟแก้ว โดยผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดและจะต้องออกจากการแข่งขั่นก็คือเชฟธีน่า และเชฟแก้ว
  • ผู้ชนะ: เชฟอาร์
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารสามจานที่แย่ที่สุด: เชฟธีน่า, เชฟ ENOCH และเชฟแก้ว
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: เชฟธีน่า และเชฟแก้ว

ตอนที่ 6 : ทะเลเผาสุดไฮโซ

ออกอากาศ 13 กันยายน 2563
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: ในรอบนี้มีวัตถุดิบหลักคือกุ้งลายเสือ หอยหวาน ปูม้า ปลาสำลี และปลาหมึก ในโจทย์ ทะเลเผาสุดไฮโซ โดยสามจานที่แย่ที่สุดในรอบนี้คือเชฟจี, เชฟพงษ์ และเชฟโมน โดยผู้ที่ชนะในรอบวัตถุดิบปริศนาในสัปดาห์ที่แล้วนั่นก็คือ เชฟอาร์ จะได้รับสิทธิพิเศษในการเลือก 1 ใน 3 คนนี้ ที่จะไม่ต้องไปแข่งขันต่อในรอบต่อไป โดยเชฟอาร์ได้เลือกให้เป็นเชฟจี ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟจารึก ซึ่งผู้ชนะสามารถเลือกเชฟ 2 คนให้ไปแข่งในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา โดยเชฟจารึกได้เลือกเชฟอาร์และเชฟบอยให้ไปแข่งขันต่อ
  • ผู้ชนะ: เชฟจารึก
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารสามจานที่แย่ที่สุด: เชฟจี, เชฟพงษ์ และเชฟโมน
  • ผู้ที่ถูกเลือกให้ไปแข่งขันต่อ: เชฟอาร์และเชฟบอย
  • รอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา: ในรอบนี้เชฟทั้ง 4 คนจะต้องประมูลวัตถุดิบโดยใช้เวลาเป็นตัวประมูล โดยเชฟที่ประมูลวัตถุดิบโดยใช้เวลาน้อยที่สุดจะได้วัตถุดิบชิ้นนั้นไป ส่วนเชฟที่ไม่สามารถชนะการประมูลได้จะต้องใช้วัตถุดิบอย่างสุดท้ายกับเวลา 30 นาที ในโจทย์ ชิ้นส่วนต่างๆ ของวัว โดยเชฟอาร์ได้วัตถุดิบเป็นสมองวัว, เชฟโมนได้วัตถุดิบเป็นหัวใจวัว, เชฟพงษ์ได้วัตถุดิบเป็นหางวัว ส่วนเชฟบอยได้วัตถุดิบเป็นไขกระดูกวัว (Bone Marrow) ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟอาร์ และผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดและจะต้องออกจากการแข่งขั่นคือ เชฟพงษ์และเชฟบอย
  • ผู้ชนะ: เชฟอาร์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: เชฟพงษ์และเชฟบอย

ตอนที่ 7 : เป๋าฮื้อ Hip Hop

ออกอากาศ 20 กันยายน 2563
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: ในรอบนี้มีวัตถุดิบหลักคือหอยเป๋าฮื้อ ในโจทย์ เป๋าฮื้อ Hip Hop และวัตถุดิบปริศนาคือข้าวโอ๊ต ในโจทย์เครื่องดื่ม โดยผู้ที่ชนะในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลาในสัปดาห์ที่แล้วนั่นก็คือ เชฟอาร์ จะได้รับสิทธิพิเศษในการเลือกใครก็ได้ 4 คน ให้ทำเครื่องดื่มจากข้าวโอ๊ต เพื่อกินร่วมกับเมนูจานหลักในจานอาหารของพวกเขา โดยเชฟอาร์ได้เลือกให้เชฟจารึก เชฟ ENOCH เชฟเก่ง และเชฟโมน โดยสองจานที่แย่ที่สุดในรอบนี้คือเชฟ ENOCH และเชฟจี โดยเชฟจีพลาดในเรื่องการชูวัตถุดิบหลัก ส่วนเชฟ ENOCH พลาดในเรื่องรสชาติและการชูวัตถุดิบปริศนา โดยสองจานที่ดีที่สุดในรอบนี้คือเชฟอาร์ และเชฟเก่ง โดยผู้ชนะในรอบนี้คือ เชฟอาร์ ซึ่งผู้ชนะสามารถเลือกเชฟ 2 คนให้ไปแข่งในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา โดยเชฟอาร์ได้เลือกเชฟจารึกและเชฟโมนให้ไปแข่งขันต่อ
  • ผู้ชนะ: เชฟอาร์
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารสองจานที่แย่ที่สุด: เชฟ ENOCH และเชฟจี
  • ผู้ที่ถูกเลือกให้ไปแข่งขันต่อ: เชฟจารึกและเชฟโมน
  • รอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา: ในรอบนี้เชฟทั้ง 4 คนจะต้องประมูลอุปกรณ์ที่จะใช้ในการทำอาหารริมทางโดยใช้เวลาเป็นตัวประมูล โดยเชฟที่ประมูลอุปกรณ์โดยใช้เวลาน้อยที่สุดจะได้อุปกรณ์ชิ้นนั้นไป ส่วนเชฟที่ไม่สามารถชนะการประมูลได้จะต้องใช้อุปกรณ์อย่างสุดท้ายกับเวลา 30 นาที โดยเชฟโมนได้อุปกรณ์เป็นรถเข็นขนมครก, เชฟจีได้อุปกรณ์เป็นรถเข็นขนม Tokyo, เชฟจารึกได้อุปกรณ์เป็นรถเข็นส้มตำ ไก่ย่าง ส่วนเชฟ ENOCH ได้อุปกรณ์เป็นรถเข็นก๋วยเตี๋ยว ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟจารึก และผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดและจะต้องออกจากการแข่งขั่นคือ เชฟจี
  • ผู้ชนะ: เชฟจารึก
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: เชฟจี

ตอนที่ 8 : การแข่งขันของผู้แข่งขันที่ตกรอบไปแล้ว

ออกอากาศ 27 กันยายน 2563
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: รอบวัตถุดิบปริศนาครั้งนี้ผู้เข้าแข่งขัน 6 คนสุดท้ายได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบต่อไปทันที เนื่องจากเป็นการแข่งขันของผู้แข่งขันที่ตกรอบไปแล้ว เพื่อคัดเลือกผู้แข่งขันเพียงแค่ 1 คนที่ตกรอบไป เพื่อที่จะได้สิทธ์กลับเข้ามาร่วมการแข่งขันอีกครั้ง อันได้แก่ เชฟจี, เชฟแก้ว, เชฟพงษ์, เชฟธีน่า, เชฟบอย และเชฟเติ้ล โดยในรอบนี้มีวัตถุดิบหลักคือถั่วฝักยาว เชฟพงษ์, เชฟแก้ว, เชฟจี และเชฟธีน่า เป็นสี่จานที่ทำออกมาได้ดีที่สุด และทั้งสี่คนจะได้ทำการแข่งขันกันอีกครั้งในรอบต่อไป
  • ผู้เข้ารอบสี่คนวัตถุดิบปริศนา: เชฟพงษ์, เชฟแก้ว, เชฟจี และเชฟธีน่า
  • รอบวัตถุดิบปริศนา 2: รอบวัตถุดิบปริศนาครั้งนี้ผู้เข้าแข่งขัน 4 คนสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ โดยในรอบนี้เด็กๆ จากทางบ้านทั้ง 6 คน (ได้แก่ น้องเล็บ, น้องก้อนหิน, น้องเฟรน์นี่, น้องทอฝัน, น้องลูกหม่อน และน้องลูกไม้) จะทำการเลือกวัตถุดิบให้แก้ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 4 คน ซึ่งน้องๆ ได้เลือกวัตถุดิบ อันได้แก่ ซี่โครงหมู, สตรอว์เบอร์รี, พีช, กุ้ง, เลม่อน และพริก โดยจะต้องชูวัตถุดิบหลักทั้ง 6 อย้างออกมาในเมนูเดียว และมีวัตถุดิบเสริมอย่างจำกัดเตรียมไว้ที่ใต้ฐานครัว โดยไม่สามารถเข้าไปหยิบวัตถุดิบในห้องวัตถุดิบได้เลย โดยผู้ชนะในรอบนี้ และได้รับโอกาสกลับเข้ามาในการแข่งขันในรอบต่อไป คือเชฟแก้ว
  • ผู้ชนะ: เชฟแก้ว

ตอนที่ 9 : การรังสรรค์อาหารเจ

ออกอากาศ 4 ตุลาคม 2563
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: ในรอบนี้กติกาจะเปลี่ยนแปลงไป ก็คือผู้เข้าแข่งขั่นทุกคนจะมีเวลาอย่างจำกัดในการเข้าห้องวัตถุดิบ โดยที่ผู้เข้าแข่งขันจะไม่รู้เลยว่าประตูห้องวัตถุดิบจะปิดเมื่อไหร่ ดังนั้นถ้าประตูห้องวัตถุดิบเลื่อนลง ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องรีบออกจากห้องวัตถุดิบทันที เพราะถ้าผู้เข้าแข่งขันออกมาไม่ทัน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องติดอยู่ในนั้น 5 นาที สำหรับผู้ที่ติดอยู่ในนั้นสามารถเลือกวัตถุดิบเพิ่มเติมในห้องนั้นได้ จนกว่าจะหมดเวลา ในรอบนี้วัตถุดิบหลักคือเต้าหู้ยี้ ในโจทย์ อาหารเจ และวัตถุดิบปริศนาคือนมถั่วเหลือง ในโจทย์ของหวานในรูปแบบของอาหารเจ โดยผู้ที่ชนะในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลาในสัปดาห์ที่แล้วนั่นก็คือ เชฟจารึก จะได้รับสิทธิพิเศษในการเลือกใครก็ได้ 3 คน ให้ทำของหวานจากนมถั่วเหลิอง เพื่อกินร่วมกับเมนูจานหลักในจานอาหารของพวกเขา โดยเชฟจารึกได้เลือกให้เชฟโมน เชฟเก่ง และเชฟ ENOCH แต่ทั้ง 3 คนที่ถูกเลือกจะมีสิทธิในการเข้าห้องวัตถุดิบอีกครั้ง โดยสองจานที่แย่ที่สุดในรอบนี้คือเชฟจารึก และเชฟ ENOCH โดยเชฟจารึกพลาดในเรื่องการชูวัตถุดิบหลัก ส่วนเชฟ ENOCH พลาดในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ โดยผู้ชนะในรอบนี้คือ เชฟเก่ง ซึ่งผู้ชนะสามารถเลือกเชฟ 2 คนให้ไปแข่งในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา โดยเชฟเก่งได้เลือกเชฟโมนและเชฟบูมให้ไปแข่งขันต่อ
  • ผู้ชนะ: เชฟเก่ง
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารสองจานที่แย่ที่สุด: เชฟจารึก และเชฟ ENOCH
  • ผู้ที่ถูกเลือกให้ไปแข่งขันต่อ: เชฟโมนและเชฟบูม
  • รอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา: ในรอบนี้เชฟทั้ง 4 คนจะต้องประมูลแกงไทยโดยใช้เวลาเป็นตัวประมูล โดยเชฟที่ประมูลแกงไทยโดยใช้เวลาน้อยที่สุดจะได้แกงไทยนั้นไป ส่วนเชฟที่ไม่สามารถชนะการประมูลได้จะต้องได้รับแกงไทยอย่างสุดท้ายกับเวลา 30 นาที โดยเชฟ ENOCH ได้เป็นแกงเผ็ดเป็ดย่าง ในรูปแบบของเวลลิงตัน, เชฟโมนได้เป็นแกงขี้เหล็ก ในรูปแบบของพาย, เชฟจารึกได้เป็นแกงปูใบชะพลู ในรูปแบบของต๊อกโบกี ส่วนเชฟบูมได้เป็นแกงเทโพปลาเค็ม ในรูปแบบของลาซานญ่า และผู้เข้าแข่งขันจะต้องนำเสนอในรูปแบบอินเตอร์ ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟจารึก และผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดและจะต้องออกจากการแข่งขั่นคือ เชฟโมน
  • ผู้ชนะ: เชฟจารึก
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: เชฟโมน

ตอนที่ 10 : เลือดหมู และสัญชาติอาหารใกล้ตัวแบบง่ายๆ

ออกอากาศ 11 ตุลาคม 2563
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: ในรอบนี้กติกาจะเปลี่ยนแปลงไป ก็คือผู้เข้าแข่งขั่นทุกคนจะมีเวลาอย่างจำกัดในการเข้าห้องวัตถุดิบ โดยที่ผู้เข้าแข่งขันจะไม่รู้เลยว่าประตูห้องวัตถุดิบจะปิดเมื่อไหร่ ดังนั้นถ้าประตูห้องวัตถุดิบเลื่อนลง ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องรีบออกจากห้องวัตถุดิบทันที เพราะถ้าผู้เข้าแข่งขันออกมาไม่ทัน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องติดอยู่ในนั้น 15 นาที สำหรับผู้ที่ติดอยู่ในนั้นสามารถเลือกวัตถุดิบเพิ่มเติมในห้องนั้นได้ จนกว่าจะหมดเวลา ในรอบนี้วัตถุดิบหลักคือเลือดหมูสด พอการแข่งขันดำเนินมาได้ 20 นาที ก็จะมีสิทธิพิเศษของทางรายการก็คือ ผู้เข้าแข่งขันบางคนจะมีสิทธิ์เข้าห้องวัตถุดิบอีกครั้ง เพื่อไปเลือกวัตถุดิบมาเพิ่ม โดยผู้ที่ชนะในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลาในสัปดาห์ที่แล้วนั่นก็คือ เชฟจารึก จะได้รับสิทธิพิเศษในการตัดสิทธิ์ใครก็ได้ 3 คน ที่จะไม่ได้เข้าไปเลือกวัตถุดิบในห้องวัตถุดิบเพิ่ม โดยเชฟจารึกได้ตัดสิทธิ์เชฟบูม, เชฟเก่ง และเชฟแก้ว โดยสองจานที่แย่ที่สุดในรอบนี้คือเชฟ ENOCH และเชฟแก้ว โดยเชฟ ENOCH พลาดในเรื่องหมูที่ยังดิบอยู่ และไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ส่วนเชฟแก้ว พลาดในเรื่องการชูวัตถุดิบหลัก โดยผู้ชนะในรอบนี้คือ เชฟอาร์ ซึ่งผู้ชนะสามารถเลือกเชฟ 2 คนให้ไปแข่งในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา โดยเชฟอาร์ได้เลือกเชฟจารึกและเชฟเก่งให้ไปแข่งขันต่อ
  • ผู้ชนะ: เชฟอาร์
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารสองจานที่แย่ที่สุด: เชฟ ENOCH และเชฟแก้ว
  • ผู้ที่ถูกเลือกให้ไปแข่งขันต่อ: เชฟจารึกและเชฟเก่ง
  • รอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา: ในรอบนี้เชฟทั้ง 4 คนจะต้องประมูลสัญชาติอาหารโดยใช้เวลาเป็นตัวประมูล โดยเชฟที่ประมูลสัญชาติอาหารโดยใช้เวลาน้อยที่สุดจะได้สัญชาติอาหารนั้นไป ส่วนเชฟที่ไม่สามารถชนะการประมูลได้จะต้องได้รับสัญชาติอาหารอย่างสุดท้ายกับเวลา 30 นาที โดยมีวัตถุดิบหลักก็คือวุ้นเส้น โดยเชฟ ENOCH ได้เป็นสัญชาติอินโดนีเซีย, เชฟแก้วได้เป็นสัญชาติเวียดนาม, เชฟเก่งได้เป็นสัญชาติลาว ส่วนเชฟจารึกได้เป็นสัญชาติเมียนมาร์ ผู้ชนะในรอบนี้คือเชฟ ENOCH และผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้แย่ที่สุดและจะต้องออกจากการแข่งขั่นคือ เชฟจารึก
  • ผู้ชนะ: เชฟ ENOCH
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: เชฟจารึก

ตอนที่ 11 : รอบรองชนะเลิศ (Semi-Final)

ออกอากาศ 18 ตุลาคม 2563
  • รอบวัตถุดิบปริศนา: ในรอบนี้วัตถุดิบหลักคือปลาอินทรีย์เค็ม และวัตถุดิบปริศนาคือช็อกโกแลต โดยผู้ที่ชนะในรอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลาในสัปดาห์ที่แล้วนั่นก็คือ เชฟ ENOCH จะได้รับสิทธิพิเศษก็คือ จะเลือกใช้หรือไม่ใช้วัตถุดิบปริศนานี้ก็ได้ แต่ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือจะต้องใช้วัตถุดิบปริศนานี้ควบคู่ไปกับวัตถุดิบหลัก โดยสองจานที่แย่ที่สุดในรอบนี้คือเชฟแก้ว และเชฟ ENOCH โดยผู้ชนะในรอบนี้จะได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทันทีก็คือ เชฟเก่ง
  • ผู้ชนะ: เชฟเก่ง
  • ผู้ที่ตกเป็นอาหารสองจานที่แย่ที่สุด: เชฟแก้ว และเชฟ ENOCH
  • รอบความคิดสร้างสรรค์และการจัดการเวลา: ในรอบนี้เชฟทั้ง 4 คนจะต้องประมูลวัตถุดิบโดยใช้เวลาเป็นตัวประมูล โดยเชฟที่ประมูลวัตถุดิบโดยใช้เวลาน้อยที่สุดจะได้วัตถุดิบนั้นไป ส่วนเชฟที่ไม่สามารถชนะการประมูลได้จะต้องได้รับวัตถุดิบอย่างสุดท้ายกับเวลา 30 นาที โดยเชฟอาร์ได้วัตถุดิบเป็นเนื้อวากิว A5, เชฟแก้วได้วัตถุดิบเป็นหนังหมู, เชฟ ENOCH ได้วัตถุดิบเป็นกุ้งแห้ง ส่วนเชฟบูมได้วัตถุดิบเป็นแคนาเดียน ล็อบสเตอร์ แต่การแข่งขันครั้งนี้ ทั้ง 4 คนต้องใช้วัตถุดิบเดียวกัน ในเวลาที่เท่ากัน ถ้าหากใครได้การ์ดที่มีสัญลักษณ์ของ The Next Iron Chef คนที่เหลือจะต้องใช้วัตถุดิบของคนๆ นั้นในเวลาที่คนๆ นั้นประมูลได้ คนที่เปิดการ์ดแล้วได้สัญลักษณ์ของ The Next Iron Chef ก็คือ เชฟแก้ว กับวัตถุดิบคือหนังหมู กับเวลาในการทำอาหาร 50 นาทีตามที่เชฟแก้วประมูลไว้ โดยผู้ที่ทำจานอาหารออกมาได้ดีที่สุด 2 อันดับแรก คือเชฟบูม และเชฟอาร์ ดังนั้น ผู้ที่ต้องออกจากการแข่งขันในรอบนี้คือ เชฟแก้ว และเชฟ ENOCH
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: เชฟแก้ว และเชฟ ENOCH

ตอนที่ 12 : รอบชิงชนะเลิศ (Final)

ออกอากาศ 25 ตุลาคม 2563
  • รอบแรก (วัตถุดิบปริศนา) : ในรอบนี้วัตถุดิบหลักคือ ไข่ปลาคาเวียร์ และปลาสเตอร์เจียน โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องรังสรรค์วัตถุดิบให้เป็นอาหารจานหลัก (Main Course) โดยทางรายการจะมีวัตถุดิบที่หลากหลาย และภาชนะตกแต่งอย่างครบคัน โดยผู้เข้าแข่งขันจะมีเวลาถึง 90 นาที ในการทำอาหาร
  • รอบสอง (ทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) : โจทย์ในรอบนี้ก็คือ ข้าวซอย โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องยกระดับข้าวซอย ให้กลายเป็นเมนูระดับ World Class โดยผู้เข้าแข่งขันจะมีเวลาเพียง 30 นาที ในการทำอาหาร
  • รอบสาม (วัตถุดิบปริศนา) : ในรอบนี้วัตถุดิบหลักคือ มะยม โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องรังสรรค์วัตถุดิบให้เป็นของหวาน (Dessert) โดยทางรายการจะมีวัตถุดิบที่หลากหลาย และภาชนะตกแต่งอย่างครบคัน โดยผู้เข้าแข่งขันจะมีเวลาถึง 120 นาที (2 ชั่วโมง) ในการทำอาหาร

โดยผู้ชนะเลิศในซีซั่นนี้ ได้ลงนามในสัญญาทำหน้าที่เป็นเชฟกระทะเหล็กคนใหม่ของประเทศไทย และได้รับเงินรางวัลรวมจำนวนมากกว่า 1,000,000 บาท ได้แก่ เชฟอาร์

  • ผู้ชนะและได้เป็นเชฟกระทะเหล็กคนใหม่: เชฟอาร์